พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลที่ผ่านมานับเป็นการแข่งขันที่เข้นข้นที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะบรรดาบิ๊กทีมต่างมียอดกุนซือสมองเพรชอยู่ในทีม คงไม่ต้องยกตัวอย่างอะไรมากเพราะทุกท่านคงทราบกันดีว่ามีใครบ้าง
สำหรับฤดูกาล 2019/20 ที่กำลังจะมาถึงนี้ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีเพียงแค่ 1-2 ทีมเท่านั้นที่มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าโค๊ช ซึ่งแน่นอนว่ากุนซือหน้าเดิมหลายคนยังคงได้จัดทัพวัดกึ๋นกันต่ออีกปี ส่วนกุนซือหน้าใหม่ก็คงต้องทำการบ้านหนักหน่อย เพราะเชื่อเถอะว่ายังไม่คุ้นรสมือของกุนซือในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างแน่นอน
สำหรับบทความนี้ขอชวนแฟนบอล SBOBETทุกท่าน ไปร่วมวิเคราะห์กันกุนซือที่น่าจับตามองว่ามีใครกันบ้าง แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าอย่าคาดหวังว่า 5 รายชื่อที่เลือกมานั้นจะดีทั้งหมด เพราะอย่างที่บอกไปว่าน่าจับตา อาจจะดีหรือไม่ดีก็เป็นได้
5. เป๊ป กวาดิโอลาร์ – แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เปิดหัวกับยอดกุนซือเจ้าของแชมป์ฤดูกาลล่าสุดอย่าง เป๊ป กวาดิโอลาร์ ถ้าเปิดเส้นกราฟผลงานของ เป๊ป ดู จะเห็นชัดเจนเลยว่าเส้นกราฟพุ่งขึ้นทุกปีโดยเฉพาะปีล่าสุดที่พา เรือใบสีฟ้า กวาดไปถึง 4 แชมป์ในประเทศ น่าเสียดายสำหรับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่พลาดตกรอบไปเสียก่อน
ความเคลื่อนไหวของ แมนฯซิตี้ ปีนี้ไม่ได้หวือหวารุกตลาดนักเตะหนักมาก เพียงแต่เลือกเสริมนักเตะที่จำเป็นเท่านั้น นั่นก็คือ โรดรี้ กองกลางจาก แอตเลติโก มาดริด ที่จะเข้ามาแบ่งเบาภาระ แฟร์นันดินโญ่ ที่วัยเข้า 34 แล้ว และดูเหมือนว่าจะเสริมทัพแค่นั้น
ฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงถูกยกเป็นเต็งหนึ่งเช่นเคยด้วยขุมกำลังหลักที่อยู่กันครบ และแข้งวัยหนุ่มหลายคนเริ่มเข้าฝักและอายุอยู่ในช่วงพีคของนักฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็น ราฮีม สเตอร์ลิง, เควิน เดอ บรอยน์, กาเบรียล เฆซุส, แบร์นาโด้ ซิลวา, โรดรี้, จอห์น สโตนส์, เบนฌาแม็ง เมนดี้ นักเตะเหล่านี้อายุวัยเข้าสู่ช่วงพีคพร้อม ๆ กัน บวกกับมีกุนซือที่ใช้งานนักเตะเป็นและสมองเพรชอย่าง เป๊ป กวาดิโอลาร์ ขุมกำลังแข็งแกร่งขนาดนี้ ก็ต้องบอกตามตรงว่ายากเกินจะต้านทาน
4. เยอร์เก้น คล็อปป์ – ลิเวอร์พูล
“ฤดูกาลนี้มาแน่” นี่คือเสียงแฟนบอล หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่พร่ำพูดกันอยู่ทุกปี ถ้าพูดกันแบบพอดี ๆ ก็ปลุกใจดีใช้ได้ แต่ถ้าพูดกันชนิดหลับหูหลับตาก็จะโดนว่าเอาได้อย่างไม่ต้องสงสัย
หงส์แดง ลิเวอร์พูล ยังคงอยู่ภายใต้การทำงานของกุนซือ เดอะ นอร์มอล วัน อีก 1 ปี และดูเหมือนว่าจะขยายสัญญาเร็ววันนี้ด้วย เทรนเนอร์รายนี้เข้ามาพลิกโฉม ลิเวอร์พูล ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ พาทีมเข้าชิงแชมป์ยุโรป 3 ปีซ้อน และคว้าชัยมา 1 ปี กับแชมป์ UCL สมัยที่ 6 สร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวเมือง ลิเวอร์พูล และ เดอะ ค็อป ทั่วโลกเป็นอย่างมาก
ฤดูกาลที่แล้ว เยอร์เก้น คล็อปป์ พา ลิเวอร์พูล จบอันดับที่ 2 ของลีกและสร้างประวัติศาสตร์เป็นรองแชมป์พรีเมียร์ลีก ที่มีแต้มมากที่สุดถึง 97 คะแนน พลาดแชมป์ไปเพียง 1 คะแนน ถือว่าดีมากแล้วนะ แต่ก็ยังมาเจอทีมที่ดีกว่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แน่นอนว่าด้วยผลงานระดับนั้นจากฤดูกาลที่แล้ว ปีนี้พวกเขาจึงถูกยกเป็นเต็งสองที่จะสามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แม้การเสริมทัพของพวกเขาจะไม่น่าตื่นเต้น แต่สามารถรั้งนักเตะตัวหลักไว้กับทีมได้แค่นี้ก็โอเคมากแล้ว ซึ่ง คล็อปป์ ก็ดูโอเคกับขุมกำลังที่มีอยู่บวกกับยังมีดาวรุ่งที่แววดีในโปรแกรม ปรี-ซีซั่น
3. เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ – ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส
กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ พาทีม ไก่เดือยทอง เข้าชิง UCL ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่ไปได้ไม่ถึงฝั่งเพราะทำได้เพียงรองแชมป์ แต่นี่ถือเป็นการเดินทางที่ดีมาก เพราะดูเหมือนว่าฤดูกาล 2019/20 นี้ พวกเขาดูเอาจริงแบบไม่กลัวใคร และพร้อมเดินหน้าบุกเต็มกำลัง ชนิดที่ไม่ใช่แค่พร้อมท้าชิง แต่พวกเขาพร้อมคว้าแชมป์
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ถือเป็นกุนซือที่มาดสุขุม แต่สามารถแก้เกมและปรับอารมณ์นักเตะได้เพียงช่วงพักครึ่ง ถือเป็นกุนซือที่ปลุกใจนักเตะ
แน่นอนว่าปีนี้พวกเขาไม่ใช่แค่ทีมรองบ่อนอีกแล้วที่ใคร ๆ จะมาพูดว่า “ก็แค่สเปอร์ส” เพราะ 1-2 ปีมานี้ พวกเขาคือ สเปอร์ส แบบ เห้ย !!! เจอ สเปอร์ส อะไรประมาณนี้
2. สตีฟ บรูซ – นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
อย่างที่บอกไปว่า บทความนี้อย่าคาดหวังกับกุนซือที่น่าจับตามองเรื่องผลงานเด่นอย่างเดียว อันดับ 2 ที่ต้องเลือก สตีฟ บรูซ เป็นเพราะว่าเจ้าตัวมีสถิติการคุมทีมใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แบบพูดกันตามตรงว่าไม่ดีเอาเสียเลย กับสถิติอันดับสูงสุดที่เจ้าตัวเคยทำได้คืออันดับที่ 10 กับทีม เบอร์มิงแฮม ในปี 2003/04 และ ซันเดอร์แลนด์ ในปี 2010/11 เคยตกชั้น 2 ครั้ง ได้แก่ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ในปี 2005/06 และฮัลล์ ซิตี้ ในปี 2014/15 สำหรับฤดูกาล 2019/20 เจ้าตัวเข้ามารับไม้ต้อจาก ราฟาเอล เบนิเตซ เอาเป็นว่าฤดูกาลนี้มาคอยให้กำลังใจ และร่วมเชียร์ไปด้วยกัน
1. แฟรงก์ แลมพาร์ด – เชลซี
มาถึงคนสุดท้าย หลายคนคงรอรายชื่อนี้อยู่ เพราะคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร นี่เป็นการก้าวกระโดดอย่างมากสำหรับกุนซือหน้าใหม่จากยอดนักเตะสู่การเป็นกุนซือ
สำหรับ แลมพาร์ด ถ้าพูดกันตามตรงเจ้าตัวยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองมากนักกับทีมใหญ่หรือทีมกลางตารางใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่ผลงานกับ ดาร์บี้ เคาท์ตี้ เคาท์ตี้ ในเดอะ แชมเปี้ยนส์ชิพ ฤดูกาลที่แล้วก็ทำได้ไม่เลว เพราะเพียงปีแรกก็พาทีมเข้าถึงรอบเพลย์ออฟนัดชิงชนะเลิศ แต่ก็ต้องพ่าย แอสตัน วิลล่า ไป 1-2 ชวดเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกอย่างน่าเสียดาย
ฤดูกาล 2019/20 การทำงานกับทีมเก่าของตนเอง และแฟน ๆ เดอะ บูลส์ ตั้งความหวังไว้กับกุนซือคนนี้อย่างสูงมาก ถือเป็นการบ้านที่หนักอึ่งของ แลมพาร์ด เพราะแน่นอนว่าความกดดันมาเต็มแน่นอนอยู่ที่ว่าเจ้าตัวจะจัดการได้ดีขนาดไหน
อย่างที่ทราบกันดีว่า เชลซี ถือเป็นทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องการปลดกุนซือพ้นเก้าอี้หากผลงานไม่ดี แต่ถ้าจะให้วิเคราะห์ทิศทางการปลด แลมพาร์ด คงยาก ถ้าผลงานของเขาไม่ถึงขนาดพาทีมหนีตกชั้น เพราะนี่ถือเป็นปีแรกบวกกับ ไม่สามารถเสริมทัพนักเตะเข้าทีมได้เนื่องจาก เชลซี โดนแบนอยู่
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน
