นาโปลี 1-0 ลิเวอร์พูล
การแข่งขันฟุตบอลรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มห่วยที่สุดในซีซั่นนี้หลังมาเยือนแบบกลวงสุดๆ เก็บบอลไม่ได้ ทำเกมไม่ได้ ถูกนาโปลีบดเกือบตลอดจนเจ้าถิ่นมาได้ประตูชัยจากโลเรนโซ่ อินซิเญ่ ในนาที 90 ถีบ หงส์แดง หล่นไปอยู่อันดับ 3 ปล่อยให้ยอดทีมจากเมืองเนเปิ้ลขึ้นจ่าฝูงแชมเปี้ยนส์ลีก กลุ่มซี เรียบร้อย ตามรายงานจาก Sbobet
นาโปลีไปพลาดเสมอกับทีมแจกแต้มประจำกลุ่มอย่างเร้ดสตาร์ เบลเกรดในนัดแรกทำให้เกมนี้ต้องเน้น 3 คะแนนให้ได้คาร์โล อันเชล็อตติเน้นส่งสตาร์ลงสนามครบทั้งคาลิดู คูลิบาลี่ในแดนหลัง มาเร็ค ฮัมซิคคุมแดนกลางขณะที่แดนหน้ามีโฆเซ่ กาเญฆ่อนกับ ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ ที่ร้อนเป็นไฟคอยล่าตาข่าย
ด้านลิเวอร์พูลเปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียวในเกมนี้เมื่อ นาบี เกอิต้า ได้ลงมาแทนจอร์แดน เฮนเดอร์สันในแดนกลางขณะที่ตำแหน่งอื่นตัวจริงทั้งหมดโรแบร์โต้ ฟิร์เมียโน่, ซาดิโอ มาเน่และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ยังได้ยืนเป็นตัวจริงต่อไป
จังหวะสำคัญของเกม
นาโปลี ที่มีเพียงคะแนนเดียวจากเกมแรกส่ง โฆเซ่ กาเยฆอน, อาร์คาดิอุส มิลิค และ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ ในแนวรุก ด้าน ลิเวอร์พูล ยังวาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ เป็นสามประสานในแดนหน้าเหมือนเดิม
เริ่มเกมมา 10 นาที นาโปลี ได้ลุ้นก่อน เมื่อหงส์แดงจ่ายบอลกันพลาดเอง ก่อนที่ โฆเซ่ กาเยฆอน จะจ่ายไปให้ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ กระชากเข้าไปซัดในเขตโทษฝั่งซ้าย บอลเฉี่ยวเสาไกลออกไปนิดเดียว
แต่นาทีที่ 19 หงส์แดงต้องเปลี่ยนตัวเร็วเลย เมื่อ นาบี เกอิต้า ได้รับบาดเจ็บหลังเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาเล่นแทน
รูปเกมยังเป็นไปอย่างอึดอัด นาทีที่ 26 ลิเวอร์พูล มีโอกาสบ้าง เมื่อ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ได้ซัดด้วยขวานอกเขตโทษ แต่บอลก็ไม่ตรงกรอบ
นาทีที่ 33 เจ้าบ้านได้โอกาสดี จากจังหวะที่ มาริโอ รุย เปิดเรียดจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษให้ อาร์คาดิอุส มิลิค จับก่อนล้มตัวยิง แต่บอลก็ไปตรงตัว อาลีสซง ปัดก่อนจะตามมารับเข้าซอง
จากนั้น ทั้งสองทีมก็เน้นปะทะกันในแดนกลางเป็นหลัก ทำให้โอกาสลุ้นประตูแทบไม่มี หมดครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0
ในครึ่งหลัง นาโปลี น่าเฮเหลือเกิน นาทีที่ 50 มิลิค ได้แต่งเข้าซ้ายแล้วซัดหน้าเขตโทษ แต่ อาลีสซง ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้ ก่อนที่ โจ โกเมซ จะมาเคลียร์ออกหลังไป
เจ้าถิ่นเริ่มเหนือกว่าแล้ว นาทีที่ 59 อินซินเย่ ลากมาทางซ้ายก่อนไหลเข้ากลางให้ มิลิค ตวัดยิง แต่บอลก็หลุดกรอบไปไกล
นาทีที่ 67 เป็นโอกาสของหงส์แดง เมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้เก็บตกลงลูกเตะมุมซัดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ แต่บอลก็ไม่เข้ากรอบอีก
นาโปลี เกือบขึ้นนำในนาทีที่ 75 เมื่อ กูลิบาลี่ ได้ทะลุไปเปิดจากทางฝั่งซ้ายไปให้ กาเยฆอน สอดมาแป แต่ โจ โกเมซ ยังสกัดข้ามเส้นออกมาได้ทัน
นาทีที่ 81 เจ้าบ้านมีโอกาสทอง เมื่อ มาริโอ รุย เปิดจากฝั่งซ้ายไปให้ ดรีส เมอร์เท่นส์ สอดมาชาร์จเผาขน แต่บอลไปชนคานอย่างจัง
นาทีสุดท้าย กลายเป็น นาโปลี มาได้ประตูชัย เมื่อ กาเยฆอน เปิดบอลไปให้ อินซินเย่ ชาร์จระยะเผาขนเข้าประตูไป จบเกม นาโปลี เอาชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 สนับสนุนบทความโดย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018 ไฮไลท์ฟุตบอล
สถิติสำคัญ
ลิเวอร์พูล ทำสถิติไม่พึงประสงค์ เมื่อยิงไม่ตรงกรอบเลยแม้แต่ครั้งเดียวในเกมแพ้ นาโปลี 0-1 ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
จากสถิติมีการเปิดเผยว่าหงส์แดงของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นั้นไม่สามารถยิงตรงกรอบเลยตลอด 90 นาทีที่สตาดิโอ ซาน เปาโล ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในแชมเปี้ยนส์ลีกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2006 เลยทีเดียว
สำหรับครั้งล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล ยิงตรงกรอบในรายการนี้ไม่ได้ก็คือเกมที่แพ้ เบนฟิก้า 0-1 ในรอบ 16 ทีม นัดแรก ซึ่งสุดท้ายแล้วหงส์แดงก็พ่ายเหยี่ยวลิสบอนไปด้วยสกอร์รวม 0-3 เหมือนที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018 อัตราต่อรอง ได้วิเคราะห์ไว้
สรุปผลงาน
จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม กองกลางลิเวอร์พูล ชี้ทีมต้องเรียนรู้จากความพ่ายแพ้ หลังบุกปราชัย นาโปลี 0-1 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
ทีมดังจากอิตาลีได้ประตูชัยในนาทีสุดท้ายจาก ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ ทำให้ “หงส์แดง” ไม่ชนะใครมาติดต่อกัน 3 นัดรวมทุกรายการ ซึ่งในเกมนี้ทีมยังยิงไม่เข้ากรอบอีกด้วย ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2006 เลย
งานนี้กองกลางทีมชาติฮอลแลนด์ยกว่า นาโปลี สมควรคว้าชัยชนะในเกมนี้ พร้อมกระตุ้นทีมให้เรียนรู้จากความผิดพลาด
“คุณต้องรู้สึกผิดหวังอยู่แล้วเมื่อทีมลงเอยด้วยความพ่ายแพ้” ไวจ์นัลดุม กล่าวผ่านเว็บไซด์สโมสร
“เราเล่นกันไม่ดีนักและพวกเขาสมควรได้สามคะแนน พวกเขามีโอกาสก่อนที่จะได้ประตู”
“พวกเขาเล่นกันลูกบอลได้ดีกว่า, พวกเขาเล่นเกมรับได้ดีและหยุดยั้งจังหวะเข้าทำของเรา มันไม่ใช่วันที่ดีสำหรับเรา พวกเขาสมควรได้ชัยชนะ”
“มันเป็นเกมที่ดีที่เราจะได้เรียนรู้, นั่นคือสิ่งที่เราจะทำ – เราต้องวิเคราะห์เกมและดูว่าเราจะทำอะไรให้ได้ดีขึ้น เรารู้ว่าเรายังทำอะไรได้ เรายังมีความมั่นใจ แต่เราต้องเช็คสิ่งต่างๆที่ไม่ควรเกิดขึ้น มันเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับเราในการเป็นทีมที่ดีขึ้นกว่านี้ เราต้องรับบทเรียนนี้และจากนั้นเราก็เดินหน้ากันต่อ”
สำหรับเกมถัดไป ลิเวอร์พูล จะเปิดบ้านพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมพรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์นี้
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน
